วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ง่ายๆ แต่ควรทำ

วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ เบื่องต้น ง่ายๆแต่ควรทำ

แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม อาการเกิดแบตเตอรี่เสื่อม
สิงหาคม 18, 2015
การทำงานของแบตเตอรี่รถยนต์
สิงหาคม 18, 2015
แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม อาการเกิดแบตเตอรี่เสื่อม
สิงหาคม 18, 2015
การทำงานของแบตเตอรี่รถยนต์
สิงหาคม 18, 2015

เรื่องเล่าแบตเตอรี่ และ วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์เบื่องต้น

แกร็กๆ เอ้า กำลังจะไปทำงานรถสตาร์ทไม่ติดอีกแล้ว เป็นอะไรไปนะ จำได้ว่าน้าชายเคยบอกว่าถ้ารถมีอาการประมาณนี้ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีปัญหาที่แบตเตอรี่รถยนต์ หรือว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของเราจะเสื่อมเสียแล้ว !! ไม่ได้การแล้ว โทรศัพท์หาน้าชายดีกว่า เพราะเขามีความรู้เรื่องรถยนต์ดี แถมซ่อมได้ด้วย . . . ซึ่งเราเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องรถยนต์สักเท่าไหร่ โชคดีมากที่วันนี้น้าชายว่างเลยรีบขับรถมาดูให้ มาถึงน้าชายก็เริ่มเลย ลองสตาร์ทรถดูก็ไม่มีการคำรามของเครื่องยนต์มีแต่ความเงียบได้ยินเพียงเสียง แกร็กๆ น้าชายจึงบอกให้ไปเปิดฝากระโปรง เพื่อจะไปเช็คแบตเตอรี่รถยนต์ น้าชายลองใช้มือหมุนและขยับขั้วแบตเตอรี่รถยนต์ดูว่าหลวมหรือไม่ . . . เมื่อเช็คจะแน่ใจแล้วขั้วไม่หลวม จึงมาสตาร์ทรถอีกครั้งสายตาก็มองเกจไมล์และน้ำมันเห็นว่าเข็มตก สตาร์ทยังไม่ติด น้าชายจึงบิดกุญแจไปที่ on จากนั้นก็เปิดทุกอย่าง ไฟหน้า ไฟฉุกเฉิน เปิดแอร์แรงสุด เปิดวิทยุ เหยียบเบรก เข้าเกียร์ถอย เปิดกระจกไฟฟ้าคู่หน้า ขึ้นลงพร้อมๆกัน ทำทุกอย่างโดยไม่สตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อเช็คระบบไฟเลี้ยงว่าพอหรือไม่ ความสว่างของไฟลดลงหรือไม่ สายตาของน้าชายก็คอยสังเกตที่เกจไมล์และน้ำมันเข็มก็ยังตกอยู่ จากนั้นก็ดูไปที่กระจก เมื่อเห็นว่ากระจกขึ้นลงแบบหนืดๆ ไฟดูสว่างน้อยลงน้าชายจึงแน่ใจว่า แบตเตอรี่รถยนต์ของเราเสื่อมสภาพแล้วจริงๆ . . . น้าชายบอกเราว่าวิธีข้างต้นเป็นวิธีการตรวจเช็คอาการแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม และยังบอกเราว่าถ้าจะเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ก็มีเรื่องต้องรู้หลายเรื่อง น้าชายให้ความรู้กับเราถึงหน้าที่ของแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งทำหน้าที่เก็บสำรองไฟฟ้า ที่ได้มาจากตัวผลิตไฟฟ้าคือไดชาร์จ หากเราขับรถตอนกลางคืนที่ต้องใช้ไฟเยอะไดชาร์จอาจจะผลิตไฟไม่ทัน ระบบก็จะดึงไฟสำรองจากแบตเตอรี่รถยนต์มาใช้ จากนั้นก็แนะเรื่องประเภทของแบตเตอรี่รถยนต์ ว่ามี 2 แบบหลักๆ (แบบแห้ง , แบบเปียก ซึ่งแบ่งออกได้เป็น แบบเติมน้ำกลั่นและแบบกึ่ง)

  1. แบบเปียก นิยมใช้กันมาก แบ่งเป็น 2 แบบย่อย คือ แบบต้องคอยดูแลเติมน้ำกลั่นเสมอๆประมาณสัปดาห์ละครั้ง กับอีกแบบ แบบกึ่งแห้ง ไม่ต้องดูแลบ่อย ซึ่งแบตเตอรี่แบบแรกนี้มีอายุการใช้งานไม่เกิน 3 ปี
  2. แบบแห้ง แบบนี้ไม่ต้องคอยเติมน้ำกลั่น อายุการใช้งานนาน 5 – 10 ปี แต่ราคาแพง

วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์

สุดท้ายก่อนที่น้าชายจะทำการพ่วงแบตเตอรี่จากรถน้าชายมาที่รถเราเพื่อลองสตาร์ทรถอีกครั้ง น้าชายก็ยังสอนเราว่าเราต้องรู้วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ไว้ด้วย ง่ายๆ 3 ข้อ

  1. หมั่นคอยตรวจสภาพแบตเตอรี่รถยนต์บ่อยๆ คอยดูว่ามีรอยรั่วรอยร้าวหรือไม่ เพราะถ้ามีสิ่งผิดปกติแบตเตอรี่ก็จะไม่เก็บประจุไฟฟ้า
  2. คอยตรวจปริมาณน้ำกลั่นทุกสัปดาห์ และเวลาเติมน้ำกลั่นควรเติมให้ได้ระดับที่กำหนดไว้ ไม่ควรเติมให้ต่ำหรือสูงเกินไป หากเติมสูงเกินไปจะทำให้ขั้วแบตเตอรี่รถยนต์มีคราบขี้เกลือขึ้น อาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้
  3. หมั่นทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์เสมอ อย่าให้มีคราบขี้เกลือเกาะได้ หากมีก็ให้เอาน้ำร้อนราดและทาด้วยจาระบี หากขั้วหลวมก็ขันให้แน่น

สามข้อนี้จะมีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ออกไปอีก โอ้โห แบตเตอรี่รถยนต์เรื่องต้องรู้จริงๆด้วย เอาล่ะ รถสตาร์ทได้แล้วไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ดีกว่า